ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำของหลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งไปงับเข้าที่แขนของบรานิสลาฟ อิวาโนวิช เป็นการกระที่ไม่ควรเอาเสียเลย และยังจัดว่าเป็นการกระทำที่น่าเสื่อมเสียชื่อเสียงของทั้งสโมสรหงส์แดง ลิเวอร์พูล และก็ตัวของกองหน้าชาวอุรุกวัยรายนี้เองด้วย แต่กระนั้นการออกบทลงโทษมาโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอกลับทำให้ดูเหมือนว่าซัวเรซน่าเห็นใจมากกว่าที่จะถูกต่อว่า เพราะมันสาหัสเกินไปจริงๆสำหรับการห้ามลงแข่งขัน หรือแบนถึง 10 นัด
กระทั่งเจ้าตัวเองที่รู้สึกเสียใจ และแสดงคำขอโทษออกมาก่อนหน้านี้ ก็ยังต้องบ่นถึงบทลงโทษว่ามันรุนแรงเกินไป เหตุผลว่าทำไม 10 นัดถึงรุนแรงเกินไปนั้น ดูได้ง่ายๆกันเลยครับ มีนักเตะที่กระทำพฤติกรรมรุนแรงภายในสนามหลายๆต่อหลายคนซึ่งกระทำให้คู่แข่งบาดเจ็บมากกว่าที่ซัวเรซงับที่แขนของอิวาโนวิชด้วยซ้ำ แต่นักเตะเหล่านั้น ไม่ได้รับบทลงโทษย้อนหลังแต่อย่างใด ตัวอย่างเช่น จังหวะที่ กุน อเกวโร่ กองหน้าของทีมเรือใบสีฟ้าแมนฯซิตี้ ไปกระโดดยันสองเท้าเข้าใส่ดาวิด ลุยส์ ของเชลซี จังหวะนั้น กุนก็ไม่ได้โดนลงโทษทั้งในเกม และย้อนหลัง หรือจะเป็นจังหวะของริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังของทีมแมนฯยูไนเต็ด ที่ไปผลักตอเรสล้มหน้าคว่ำลง แล้วตบตากรรมการด้วยการดึงตอเรสขึ้นมาก็ไม่ได้รับบทลงโทษจากทั้งในสนาม และย้อนหลังเช่นกัน หรือว่าจะเป็นจังหวะที่ใกล้เคียงการกระของหลุยส์ ซัวเรซมากที่สุด ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นนักเตะของฟูแล่ม ที่งับเข้าไปที่แขนของมาสเชราโน่ ซึ่งตอนนั้นเล่นให้กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
จังหวะนั้น ก็ไม่โดนลงโทษเช่นกัน มันจึงน่าเห็นใจอย่างมากสำหรับบทลงโทษแบน 10 นัดที่เอฟเอมอบให้กับซัวเรซ อย่างไรก็ตามมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และคำตัดสินจากเอฟเอก็ออกมาแล้ว คงไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ทั้งตัวซัวเรซเองก็เคยโดนโทษแบนหนักๆแบบนี้มาแล้ว เมื่อครั้งอยู่ฮอลแลนด์กับการกระทำแบบเดียวกันคือกันคู่แข่ง (7 นัด) กับการไปเหยียดผิวเอฟร่าเมื่อตอนย้ายมาอยู่ลิเวอร์พูลแล้ว (8 นัด) ดังนั้นคงจะต้องผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปให้ได้แล้วกลับมาโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมอีกครั้งเหมือนที่หลุยส์ ซัวเรซเคยผ่านมันมาแล้ว